July 08, 2017

รีวิวกองมหึมาสกินแคร์(และอื่นๆ)กับ INNISFREE

รีวิวกองมหึมาสกินแคร์(และอื่นๆ)กับ INNISFREE



เห็นเยอะๆ แบบนี้นี่ของแถมทั้งนั้นเลยค่ะ55555 เข้าช็อปไปซื้อของสองสามชิ้นจำต้องได้ของแถมโหลนึงกลับมา (เว่อร์ไป แต่อินนิสฟรีเค้าแจกเทสเตอร์เยอะจริงนะ) ไหนๆ เราก็ใช้หลายอย่างในกองนี้เกือบหมดและพอจะรู้ว่าอันไหนดียังไงแล้ว เลยใช้โอกาสนี้เทหลอดเล็ก กระปุกน้อย ผลิตภัณฑ์อินนิสฟรีทุกตัวที่อยู่ในบ้านมารีวิวคร่าวๆ ภายในโพสต์เดียว 

เกณฑ์ระดับความพึงพอใจของเรา

5 ชอบมากที่สุด อยากซื้อต่อ
4.5 ชอบมากเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ซื้อต่อเพราะแพง/อยากลองตัวอื่น
4 ชอบ ใช้ดีกับผิวเรา แต่ไม่เท่า 4.5
3 เฉยๆ แต่ก็ดีกว่าไม่ใช้อะไรเลย
2.5 เฉยๆ แบบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง
2 ไม่ค่อยชอบ
1 ใช้แล้วแพ้



The green tea seed serum 80ml / ฿ 1,000

 เซรั่มชาเขียวชื่อดัง เคยใช้เทสเตอร์แล้วชอบ ตอนนี้ก็ซื้อขวดใหญ่ใช้ไปจนเหลือน้อยกว่าครึ่งแล้ว (ขวดนึงใช้ได้นานเลยนะ) ประทับใจตัวนี้ มันทำให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้น เราเป็นคนผิวมันแต่น่าจะขาดความชุ่มชื้น ตัวนี้บาลานซ์ผิวได้ดีเลย ส่วนเรื่องรอยแดงที่บางคนว่ามันช่วยได้ สำหรับเรามันไม่ได้ทำให้หายไปเกลี้ยงขนาดนั้น แต่รอยก็ค่อยๆ จางลง เซรั่มตัวนี้ช่วยกอบกู้ผิวหน้าเราหลายครั้งแล้วจากการชอบลองอะไรแผลงๆ 55555
RATING: 4.5/5



เทสเตอร์จากกลุ่มชาเขียว

The green tea seed cream 50ml / ฿ 900 

(เทสเตอร์ 10ml)
เนื้อเนียน ไม่หนัก แต่ทาแล้วจะดูมันๆ หน่อย ชอบใช้เวลาอยู่บ้านไม่ออกไปไหน หน้าดูเนียนขึ้น สิวผดไม่ค่อยขึ้น
RATING: 4/5

The green tea seed eye cream 30ml / ฿ 900 

(เทสเตอร์ 5ml)
บางทีก็ไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ บางทีก็ช่วยไบรท์เทนใต้ตานิดหน่อย
RATING: 3/5



Green tea balancing cream 50ml / ฿ 680

(เทสเตอร์ 5ml)
เนื้อเบากว่า green tea seed cream เลยชอบตัวนี้มากกว่า ทาแล้วหน้าชุ่มชื้นขึ้น เนื้อซึ้มเข้าผิวเร็ว ไบรท์ขึ้น ไม่แพ้ สิวผดไม่ค่อยขึ้น
RATING: 4.5/5


Green tea balancing skin 200ml / ฿ 630

(เทสเตอร์ 15ml)
คล้ายๆ โทนเนอร์แต่เนื้อไม่เหลวเหมือนน้ำ เวลาใช้เลยไม่ใช้กับสำลีแผ่น ซึมเร็ว ใช้แล้วหน้าเย็นดี แต่ก็คิดว่าเหมือนๆ กับโทนเนอร์ทั่วไป
RATING: 3/5

Green tea balancing lotion 160ml / ฿ 630

(เทสเตอร์ 15ml)
เนื้อออกเจลผสมครีม ซึมเข้าผิวเร็ว ชุ่มชื้นมาก ชอบใช้คู่กับ Green tea balancing skin 
RATING: 4/5



กลุ่มชาเขียวที่ช่วยเรื่องควบคุมความมัน

Green tea fresh skin 200ml / ฿ 630

(เทสเตอร์ 15ml)
เป็นโทนเนอร์เหลวๆ แบบน้ำเลย อันนี้รู้สึกเฉยๆ กว่า Green tea balancing skin อีก ใช้ไม่ใช้ก็ไม่เปลี่ยนแปลง
RATING: 2.5/5

Green tea fresh essence 50ml / ฿ 720

(เทสเตอร์ 10ml)
เนื้อคล้ายเจล แต่ไม่เหนียวเหนอะ ทาบนหน้าแล้วเย็น ซึมเร็วดี แต่เหมือนจะเป็นฟิล์มหน่อยๆ เราไม่ค่อยชอบ แต่ดีที่เนื้อไม่หนัก หน้าเลยไม่มันเร็ว
RATING: 3/5

Green tea fresh cream 50ml / ฿ 680

(เทสเตอร์ 10ml)
อันนี้เป็นเนื้อเจลเลย แล้วเราก็รู้ว่าเราไม่ชอบมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเจล ทาแล้วมันเหนอะๆ ถึงจะซึมเร็วก็เถอะ แต่มันไม่ช่วยสมูธผิวเท่าไหร่ คนผิวมันคนอื่นๆ อาจจะชอบก็ได้
RATING: 3/5



Orchid enriched cream 50ml / ฿ 1,130

(เทสเตอร์ 10ml)
เนื้อหนักกว่าทุกตัวที่ใช้มา คนผิวแห้งน่าจะชอบ เราชอบใช้เป็น night cream กลิ่นหอมดีค่ะ ผลลัพธ์ก็ดีด้วย ไม่แพ้ สิวไม่ขึ้นถึงเนื้อจะหนักก็เถอะ หน้าดูอิ่มขึ้น นุ่มขึ้นด้วย
RATING: 4.5/5




Whitening pore facial cleanser 150ml / ฿ 540

(เทสเตอร์ 10ml)
กลิ่นหอม ทำความสะอาดได้ดี แต่แบบโฟมล้างเสร็จหน้าจะตึงหน่อย แต่ไม่มากเท่าไหร่
RATING: 4/5

Whitening pore skin 150ml / ฿ 540

(เทสเตอร์ 15ml)
ไม่รู้มันใช้เหมือนโทนเนอร์หรือเปล่า แต่เนื้อหนืด ลื่นๆ ซึมยาก แบบเราจะไม่ใช้ตัวนี้ก่อนออกไปไหนเลย มันจะเยิ้มค่อนข้างเร็ว ผลลัพธ์ก็ทำให้หน้าสว่างขึ้นนิดหน่อย หน้านุ่มขึ้น
RATING: 3/5

Whitening pore cream 50ml / ฿ 1,270

(เทสเตอร์ 10ml)
ชอบตัวนี้ที่สุดในกลุ่ม เนื้อครีมไม่หนัก ผิวดูเนียนขึ้น ใช้ตอนกลางวันก่อนออกไปไหนได้สบายเลย
RATING: 4.5/5




Sparkling mineral skin 200ml / ฿ 810

(เทสเตอร์ 15ml)
เป็นโทนเนอร์ของอินนิสฟรีที่ชอบที่สุด ทำให้ผิวสดชื่นขึ้น กลิ่นหอมแบบเฟรชๆ ด้วย
RATING: 4/5


Jeju sparkling mineral lotion 160ml / ฿ 810

(เทสเตอร์ 15ml)
โลชั่นเนื้อเบา ซึมเข้าผิวเร็ว สดชื่นมากๆ ชอบใช้ก่อนนอน ตื่นมาแล้วหน้าไบรท์ดี สิวผดยุบด้วย
RATING: 4.5/5

Jeju sparkling mineral cream 50ml / ฿ 1,130

(เทสเตอร์ 5ml)
ชอบตัวนี้มากกก หน้าเนียนขึ้น สิวขึ้นน้อยลง เนื้อไม่หนักเหมือนตัว Green tea seed cream ใช้ตอนกลางวันหน้าไม่เยิ้ม บาลานซ์ผิวได้ดีเลย ในส่วนผสมเค้ามี shea butter อยู่ด้วย ตัวนี้แหละมั้งที่ช่วยสมูธผิว
RATING: 5/5




Soybean energy skin 200ml / ฿ 890

(เทสเตอร์ 5ml)
โทนเนอร์สีขุ่น เนื้อหนัก เพราะกลุ่ม soybean เค้าช่วยเรื่องริ้วรอย แต่เราไม่ชอบเลยเพราะมันหนักหน้า ใช้ก่อนนอน ตื่นมาก็ไม่ค่อยช่วยอะไร
RATING: 2/5


Soybean energy lotion 160ml / ฿ 890

(เทสเตอร์ 5ml)
โลชั่นเนื้อยิ่งหนักไปอีก เยิ้มตั้งแต่เริ่มทา ใช้ก่อนนอน ไม่ได้ช่วยให้หน้านุ่มหรืออิ่มน้ำหรืออะไรเลย หน้ามันอย่างเดียว
RATING: 2/5



Aloe revital sleeping pack / ไม่มีขายในช็อปไทย

(เทสเตอร์ 10ml)
ชอบตัวนี้ ใช้แล้วหน้าชุ่มชื่น ตื่นมาไม่ค่อยมีสิวผด
RATING: 4.5/5

Green tea sleeping pack 80ml / ฿ 590

(เทสเตอร์ 10ml)
ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เนื้อสัมผัสก็โอเคอยู่หรอก แต่ตัวนี้ดูจะมันกว่าเพื่อน จริงๆ ในส่วนผสมเขามี niacinamide ที่ช่วยเรื่องสิวอยู่ด้วยนะ แต่เราใช้แล้วสิวชอบขึ้น
RATING: 2/5

Wine jelly sleeping pack 80ml / ฿ 540

(เทสเตอร์ 10ml)
ชอบตัวนี้ที่สุดในกลุ่ม เนื้อเบามาก กลิ่นหอมด้วย ใช้แล้วหน้าดูสว่างขึ้นจริงๆ ชอบใช้เวลาขี้เกียจลงไนท์ครีมเนื้อหนักๆ ทาตัวนี้อย่างเดียวก็โอเคแล้ว
RATING: 5/5



พวกนี้คือมาส์กแบบล้างออกยกเว้นอันกลาง 2 อันที่เป็น sleeping mask

Capsule recipe pack volcanic cluster 10ml / ฿ 90

หลายๆ คนดูชอบมากส์โคลนของอินนิสฟรีนะ แต่เราเฉยๆ อะ55555 แบบสิวเสี้ยนสิวผดก็ไม่ได้หลุดขนาดนั้น
RATING: 3/5

Capsule recipe pack red kiwi 10ml / ฿ 90

จะบอกว่าเราไม่รู้ว่ามันคือ sleeping mask เราใช้แบบล้างออกไปจนหมดแล้วเพิ่งรู้555555 ขอโทษนะคะตัวนี้เราให้คะแนนไม่ได้จริงๆ55555

Capsule recipe pack bija&aloe 10ml / ฿ 90

sleeping mask อีกตัว ใช้แล้วเฉยๆ อาจจะเพราะเราไม่ชอบเนื้อเจลหนืดๆ ด้วยมั้ง เลยคิดว่ามอยส์เจอไรเซอร์ยังดีกว่า
RATING: 3/5

2 ตัวที่เหลือริมขวาเป็นแบบแพคเกจเก่า ราคา 70 บาท ตอนนี้เปลี่ยนแพคเกจใหม่เป็นแบบฝาปิดได้แล้ว

Capsule recipe pack bija&tea tree 10ml / ฿ 90 (แบบแพคเกจใหม่)

ไม่รู้สึกต่างอะไรจากมาส์กโคลน ไม่ได้ช่วยเรื่องสิวมากมาย (ตัวนี้สูตรรักษาสิว)
RATING: 3/5

มีกอีกสูตรที่เหลือที่เค้าไม่ทำต่อแล้วคือ apricot จริงๆ เราชอบตัวนี้นะ กลิ่นหอมดี ล้างออกแล้วหน้าชุ่มชื้น สว่างขึ้น



Green tea cleansing foam 150ml / ฿ 360

(เทสเตอร์ 10ml)
ไม่ชอบตัวนี้ที่สุดในหมู่คลีนเซอร์ ใช้แล้วรู้สึกไม่ค่อยสะอาด
RATING: 2/5

Jeju volcanic pore cleansing foam 150ml / ฿ 360

(เทสเตอร์ 10ml)
ใช้แล้วหน้าสะอาดดี แต่บางทีก็สะอาดไป5555 หน้าแห้งตึงค่อนข้างมากหลังใช้ ต้องรีบโปะมอยส์เจอไรเซอร์
RATING: 2.5/5

Olive real cleansing foam 150ml / ฿ 450

(เทสเตอร์ 10ml)
ทำความสะอาดโอเค กลิ่นหอม หน้าไม่แห้งตึงมาก แต่บางทีก็เหมือนล้างไม่เกลี้ยงเท่าไหร่
RATING: 3/5




Bija trouble facial foam 150ml / ฿ 360

ตัวนี้เป็นสูตรช่วยรักษาสิว ล้างหน้าสะอาดโอเค อ่อนโยน ใช้แล้วจะรู้สึกเย็นๆ ที่หน้า ลดอาการหน้าแดง แต่ก็ทำให้หน้าแห้งตึงนิดหน่อย ว่าจะลองใช้แบบเจล
RATING: 4/5



Green barley gommage mask 120ml / ฿ 450

มาส์กประมาณ 3 นาทีบนหน้าเปียกน้ำแล้วล้างออก เนื้อมาส์กเป็นสครับนุ่มๆ อ่อนโยนมาก ใช้แล้วหน้าสะอาดขึ้น ไม่แห้งตึง 
RATING: 4/5



It's real squeeze mask - 1sheet/20ml / ฿ 50

ชีทมาส์กเราใช้มาเกือบทุกสูตรแล้ว ใช้จนเบื่อเลยจริงๆ 5555 ชอบสูตรแตงกวาที่สุด กลิ่นหอม ใช้แล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงกว่าเพื่อน ส่วนตัวอื่นๆ ก็ชอบพอๆ กัน ที่ไม่ค่อยชอบจะมีสูตรข้าวซึ่งเราว่าเอสเซนซ์มันหนักไปหน่อย กับสูตรมะนาวที่กลิ่นเหมือนน้ำยาล้างจาน55555



Fitting cover concealer 10ml / ฿ 290

ปกปิดปานกลาง ไม่คุมมัน ตอนไปซื้อในช็อปมี 3 เบอร์ ขาวทุกเบอร์ เราใช้เบอร์ 3 หน้ายังเกือบลอยเลย5555
RATING: 3/5

Mineral stick concealer 2g / ฿ 360

ไม่ปกปิดอะไรเลย เนื้อแห้ง เสี่ยงต่อการตกร่องมาก บาย
RATING: 1/5



No sebum mineral powder AD 5g / ฿ 270

แป้งคุมมันตัวโปรด คุมมันดีมากกก ใช้ตอนเช้า ตอนกลางวันหน้าจะเงาๆ ละ แต่ไม่เยิ้มนะ ใช้กระดาษซับก็โอเคแล้ว รักมาก
RATING: 5/5

Mineral Ultrafine Pact

หาไม่เจอในเว็บ ไม่แน่ใจว่ายังมีขายอยู่มั้ย ราคาน่าจะเกือบ 800 บาท
เนื้อละเอียดมาก ปกปิดรูขุมขน/รอยสิวได้ดี แต่ไม่คุมมันเลย หน้ามันแล้วค่อนข้างเยิ้ม ต้องระวังอย่าให้เป็นคราบ
RATING: 4/5

No sebum mineral pact 8.5g / ฿ 450

แป้งคุมมันแบบอัดแข็ง คุมมันได้ดีเหมือนกัน แต่เราชอบแบบฝุ่นมากกว่า อันนี้มันขาวๆ ไปหน่อย
RATING: 4/5



Eco flower tint balm 3.5g / ฿ 310

สีติดทนใช้ได้ สีสดมากกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลย555 เราไม่ชอบลิปแมต เลยถูกใจลิปแบบนี้
RATING: 4/5

Canola honey lip balm (deep moisture) 3.5g / ฿ 240

ให้ความชุ่มชื้นโอเค แต่ไม่ค่อยติดทนเท่าไหร่ ชอบของ DHC มากกว่า แต่ลิปบาล์มของอินนิสฟรีดีตรงที่กลิ่นไม่แรง
RATING: 4/5



Jeju perfumed hand cream 30ml / ฿ 150

(เทสเตอร์ 10ml)
ปกติเราไม่ใช้แฮนด์ครีม แต่เคยใช้ตัวนี้บางครั้งที่รู้สึกว่ามือแห้งมาก ก็โอเคนะ กลิ่นหอม ซึมเร็ว ไม่ทิ้งคราบมัน
RATING: 4/5



My daphne body lotion 300ml / ฿ 490

กลิ่นนี้หอมมากกก เป็นกลิ่นดอกไม้ๆ กลิ่นติดอยู่นานด้วย แต่เนื้อโลชั่นหนักอยู่ ต้องกะปริมาณดีๆ 
RATING: 4.5/5



Camellia essential hair conditioner 200ml / ฿ 400

กลิ่นหอม แต่เฉยๆ กับผมที่แห้งเสียมากมายของเรา
RATING: 3/5



มาถึงรีวิวตัวสุดท้ายแล้วววว
ยาทาเล็บขวดละ 110 บาท (6ml) มีสีให้เลือกเยอะมากกก เราชอบที่เป็นกลิตเตอร์ มันทาง่ายกว่าพวกสีสีเดียว แห้งง่ายกว่า ลอกยากกว่า
ตัว top coat 6ml 150 บาท อันนี้ได้ฟรี เคยใช้แค่ครั้งเดียวเองมั้ง รู้สึกว่าสีที่ลอกง่ายมันก็ลอกง่ายอยู่ดี
น้ำยาล้างเล็บ 100ml 90 บาท กลิ่นไม่ฉุนเหมือนน้ำยาล้างเล็บทั่วไป เช็ดสีออกดีด้วย

________

ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะคะ เป็นรีวิวที่ไม่ละเอียดเอาซะเลย5555 บางอันใช้มานานมากแล้ว ก็ลืมๆ ไปบ้าง ทั้งนี้สภาพผิวคนเราไม่เหมือนกันเนอะ ใครใช้ตัวไหนแล้วถูกใจก็ยินดีด้วยนะคะ คุณเจอสกินแคร์ที่เหมาะกับตัวเองแล้ว! ส่วนใครที่ยังหาสกินแคร์ดีๆ ไม่ได้สักที ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ เราก็กำลังทดลองค้นหาไปเรื่อยๆ เหมือนกัน :)

|



July 02, 2017

รีวิว: LUSH Jason and the Argan Oil Shampoo Bar

LUSH Jason and the Argan Oil Shampoo Bar



แชมพูก็เป็นก้อนได้นะ!

LUSH เค้าทำแชมพูบาร์ออกมาหลายสูตร สีสันสวยสดเหมือนขนมหวาน ทำเอาเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว แล้วเจ้าแชมพูบาร์นี่ก็ไม่เข้าชอปไทยอีก ต้องเดาๆ จากรีวิวแล้วก็สั่งออนไลน์แทน และหลังจากเราเลือกในเว็บอยู่นานมาก พยายามจินตนาการกลิ่นแต่ละอัน สุดท้ายก็ได้ Jason and the Argan Oil สีชมพูคิ้วท์ๆ มา เย่!

★ ว่ากันว่าก้อนนึงใช้ได้ 80 ครั้งเลยนะ
★ แชมพูบาร์ช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์อย่างขวดพลาสติก
★ ขอบอกว่าถูกกว่ากลุ่มแชมพูกระปุกของ LUSH มาก แต่จะคุ้มกว่ามั้ย มาดูกันค่ะ!


£6.25/ 55g ประมาณ 280 บาทค่ะ

มาดูส่วนประกอบกันนนน

Sodium Lauryl Sulfate ส่วนประกอบหลักของแชมพูทั่วไป ทำให้เกิดฟอง ขจัดน้ำมันและสิ่งสกปรก
Water (Aqua)
Agar สารคล้ายวุ้นทำจากสาหร่ายทะเล 
Argan Oil นี่เลยพระเอกของเรา น้ำมันอาร์แกนช่วยให้ผมมีน้ำหนัก สุขภาพดี
Glycerine ช่วยคงความชุ่มชื่น
Perfume แชมพูบาร์ตัวนี้อยู่ในกลุ่มกลิ่น Rose Jam 
Rose Absolute กลิ่นหอมจากกุหลายช่วยให้ผ่อนคลาย
Geranium Oil น้ำมันหอมระเหยเจอเรเนียม ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมัน
Rose Oil น้ำมันกุหลาบ ให้กลิ่นอโรมาไปอีก
Sicilian Lemon Oil ทำให้ผมเงาสวย มีชีวิตชีวา
Limonene น้ำมันหอมระเหยจากพืชตะกูลส้ม
Coumarin ทำให้กลิ่นน้ำหอมสตรองยิ่งขึ้น
Citronellol ให้กลิ่นหอมคล้ายกุหลาบ
Geraniol ให้กลิ่นหวานแบบกุหลาบและเปรี้ยวแบบเลเม่อนหน่อยๆ
Colour 17200 สีชมพูนั่นเอง

**สารสังเคราะห์ วัตถุดิบจากธรรมชาติ

จะเห็นว่าส่วนประกอบเจ้าตัวนี้เนี่ยมีน้อยกว่าแชมพูทั่วไปตามห้างมากๆ ที่มีแต่ชื่อสารที่เราอ่านไม่ออก5555 แล้ว Jason and the Argan Oil ก็ให้น้ำมันบำรุงผมมาเยอะแยะเลย มีความออแกนิกและมินิมอลถูกใจเรามาก

OVERVIEW


ก่อนอื่นต้องพูดถึงกลิ่น กลิ่นหอมมากกกก เราชอบมาก ออกหวานดอกไม้ แคนดี้ ซึ่งปกติเราไม่ชอบกลิ่นหวานๆ นะ แต่อันนี้หวานแบบไม่เลี่ยน เหมือนกลิ่นหอมดอกไม้หลายๆ กลิ่นรวมกัน ถ้าใครไม่แน่ใจ ลองไปดมอะไรก็ได้ใน LUSH ที่อยู่ในตระกูลกลิ่น Rose Jam นะคะ กลิ่นแบบนั้นเลยล่ะ แล้วถ้าวางทิ้งไว้ในห้องนะ กลิ่นหอมฟุ้งทั่วห้องเลย

ระหว่างใช้: เราจะถูแชมพูบาร์กับมือก่อนแล้วค่อยเอาฟองมาขยี้ผม ตอนถูกับมือ ฟองออกจากก้อนเยอะมาก ใช้สระผมได้เหมือนแชมพูทั่วไปเลย แต่ถ้าเทียบกับ Curly Wurly ที่เคยใช้ Jason เขาจะฟองไม่ฟูเท่าเวลาขยี้บนผมไปสักพัก ตรงข้ามกับ Curly Wurly เลยที่จะค่อยๆ มีฟองมากขึ้น ล้างออกง่าย รู้สึกว่าผมค่อนข้างหนักด้วย เหมือนได้ conditioned ไปในตัว ปกติเวลาเราใช้ตัวนี้ เราเลยไม่ใช้ conditioner ต่อ

หลังใช้: ผมดูมีน้ำหนักขึ้น ทิ้งตัวแบบโอเคเลย ไม่เรียบแบนจนเกินไป (ปกติเราผมเสีย แห้งฟู) ผมนุ่มและเงาขึ้นด้วย รู้สึกว่ามันดีกว่าแชมพูทั่วไปจริงๆ มันไม่ได้ดูดี หรือนุ่มลื่นแค่หลังสระ แต่วันต่อๆ จากนั้นผมก็ยังดีอยู่ เสียดายตรงที่พอผมแห้งแล้วกลิ่นไม่ค่อยติดผมเลย นอกนั้นก็ประทับใจค่ะ

ถ้าเทียบกับ Curly Wurly ล่ะ: ข้อได้เปรียบของ Jason คือเค้าราคาถูกกว่าเยอะ ใช้ได้แบบบ่อยๆ เลย แต่ CW ทำให้ผมเราเป็นลอนธรรมชาติ ส่วน Jason ทำให้ผมตรงซะมากกว่า ส่วนผมนุ่มอะไรนี่ก็ทำได้ดีพอๆ กันเลย

RATING


4.5/5
หักคะแนนนิดนึงตรงกลิ่นไม่ติดทน ใช้อันนี้แล้วอยากลองแชมพูบาร์ให้ครบทุกสูตรเลย :D

|

June 05, 2017

รีวิว: LUSH Cosmetic Warrior Fresh Face Mask

LUSH Cosmetic Warrior Fresh Face Mask Review



ของเค้าสดขนาดนี้ อดใจไม่ไหวหรอก!

ผลิตภัณฑ์ของ LUSH เนี่ยขึ้นชื่อทั้งเรื่องออแกนิก รักโลก รักสัตว์ ความสดใหม่ แต่คงไม่มีตัวไหนจะสดไปกว่าเจ้า Fresh Face Mask ที่เลื่องลือแล้วล่ะ ตอนได้รู้จักครั้งแรกนี่ตื่นเต้นมาก อะไรมันจะสดและออแกนิกขนาดนั้น แล้ววัตถุดิบแต่ละอย่างก็ใส่มาแบบไม่กั๊กเลย ถ้าเกิดเป็นคนชอบสกินแคร์ธรรมชาติคงคันไม้คันมือได้ตำหลายกระปุกแน่ๆ

★ มาคส์พวกนี้มีวันหมดอายุและจำเป็นต้องเก็บในตู้เย็นนะคะ (ยกเว้นอันที่เป็น self-preserving ซึ่งมี 2 สูตรคือ Mask of Magnaminty กับ Cup O' Coffee) 
★ มีอายุแค่ 3 สัปดาห์กว่าๆ กับกระปุกนึง 75g ที่ไม่น้อยเลยนะ มีเพื่อนแบ่งเพื่อนใช้ค่ะ5555 
★ กระปุกละ 550 บาท @LUSH Siam Center
★ ใช้หมดอย่าทิ้งกระปุก! เก็บครบ 5 กระปุก สามารถนำไปแลกฟรี Fresh Face Mask ได้อีก 1 กระปุก (อย่าลืมล้างกระปุกด้วยนะ ราก็เคยขึ้นมาแล้ว...)

มาคส์สดของเค้ามีหลายสูตรเลย หน้าตาน่ากินทั้งนั้น

ขอบคุณรูปจากเพจ LUSH Thailand ค่ะ :D https://www.facebook.com/LushThailand/


หลังจากที่หมกมุ่นหาอ่านรีวิวมากมาย สุดท้ายก็เลือกซื้อสูตร Cosmetic Warrior ซึ่งมีคำเคลมว่าช่วยเรื่องสิว เหมาะกับผิวมัน มาเจาะลึกส่วนผสมกันดีกว่า :D


List of ingredients -


Kaolin แป้งเคโอลิน ช่วยดูดซับความมัน ทำความสะอาด เป็นส่วนผสมหลักของ Fresh Face Mask ทุกตัว
Fresh Green Grapes องุ่นเขียว มีคุณสมบัติแอนตี้แบคทีเรีย แอนตี้ออกซิแดนท์ มีกรด AHA ซึ่งเป็นสารขัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวกระจ่าง
Fresh Organic Free Range Eggs ไข่สดๆ ช่วยให้ผิวควบคุมการผลิต sebum เห็นมาคส์ DIY บางสูตรก็ใช้ไข่ขาวนี่แหละรักษาสิว
Honey น้ำผึ้งนอกจากจะช่วยให้ความชุ่มชื่น ก็ยังช่วยต้านเชื้อโรคอีกด้วย
Cornstarch แป้งข้าวโพด ช่วยดูดซับความมันกำลังสอง 
Glycerine กลีเซอรีนสกัดจาก rapeseed oil เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำสบู่ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น
Fresh Garlic กระเทียมสดๆ ที่เลื่องลือในการรักษาสิวมายาวนาน เพราะมันช่วยระงับเชื้อ และช่วยให้รอยแดงจางลง
Tea Tree Oil ที่เลื่องลืออีกตัว แอนตี้แบคทีเรีย รักษาสิวได้อย่างดี
Limonene น้ำมันหอมระเหยจากพืชตะกูลส้ม
Perfume น้ำหอมจากธรรมชาติ

ขอบคุณข้อมูลจาก https://uk.lush.com/products/cosmetic-warrior


สติ๊กเกอร์บอกวันผลิต-หมดอายุ และคนที่ที่ทำมาคส์นี้ 
ช็อปไทยของเรานำเข้าของมาจากญี่ปุ่น คุณคนทำเลยเป็นคนญี่ปุ่นทั้งนั้นเลยค่ะ :)

OVERVIEW


หลายคนบ่นเรื่องกลิ่นของมาคส์ตัวนี้ว่ากลิ่นแรงมากกก ทั้งกระเทียม ทั้ง tea tree oil อยากให้ลองดมก่อนซื้อนะคะ ถ้าทนไม่ไหวเค้าก็มีตัวอื่นที่ช่วยเรื่องสิวเหมือนกัน สำหรับเรา ตอนแรกที่ลองดมในร้านก็ว่าไม่เลวร้ายนะ แต่พอกลับบ้านมาพอกบนหน้านี่ หืมมมมม..... แรงจริงค่ะ แบบว่ามันใกล้จมูกด้วยไง555555 แต่ใช้ไปเรื่อยๆ ก็ชินเอง พอล้างออกกลิ่นก็จางลงแล้ว ถือว่าอยู่ในขั้นรับได้ค่ะ

ระหว่างใช้: เย็นหน้ามากกกก เพราะเพิ่งออกมาจากตู้เย็นนั่นเอง55555 เนื้อมาคส์นุ่มมาก น่ารักมาก ผิดกับกลิ่นที่ไม่พิสมัย ชอบตอนนวดบนหน้ามากๆ มาคส์สูตรนี้ไม่มีสครับ เนื้อเลยเนียนจริงๆ แต่ก็มีเศษกระเทียม(น่าจะนะ)เล็กๆ ปนอยู่ทั่วไป มาคส์ทิ้งไว้ 10-15 นาที ก็เริ่มแห้ง แต่ไม่ตึงหน้าเลย

หลังใช้: หลังล้างออกแล้ว รู้สึกหน้าสะอาด หน้าไม่แห้งตึง ไม่มัน ไม่เงาเหมือนมีอะไรเคลือบ เลยคิดว่า Cosmetic Warrior เหมาะกับผิวมันมากกว่าผิวแห้ง ชอบมาคส์ตัวนี้ก่อนนอน เพราะมันให้ความรู้สึกคลีน สบายผิวดีค่ะ

สิวผดเล็กๆ หลุดออกง่ายดี บางวันที่สิวอุดตันขึ้นเราก็มาคส์ไว้ แต่มันไม่ได้ช่วยเท่าไหร่เลย เรื่องรอยแดงจากสิวกับรูขุมขนก็ไม่เปลี่ยนแปลงมากมายหลังใช้หมดกระปุก 

RATING


3/5
หักไปเยอะเพราะมันไม่ค่อยเห็นผลเรื่องสิวของเรา ฮือ แต่หลายคนเขาว่าใช้ดีมากเลยนะ อยากให้เป็นงั้นบ้าง T_T 
แต่ไม่เป็นไร สูตรอื่นยังรอเธออยู่!


April 02, 2017

รีวิว: LUSH Herbalism

LUSH Herbalism Review


มิติใหม่ของการล้างหน้า !


Face & Body Cleanser

A herbal combination of nettles and rosemary
to balance and cleanse the skin,
with almonds and rice bran to gently exfoliate.

ส่วนประกอบมาจากธรรมชาติ 100% เลยค่ะ มาดูประโยชน์ของแต่ละอย่างกัน

แอลมอนด์บดละเอียด (ground almonds) ช่วยขัดผิว ขจัดเซลล์ผิวเก่า และเมื่อผงแอลมอนด์ผสมกับน้ำจะทำให้เกิดน้ำนมซึ่งมีวิตามินอีสูง ช่วยบรรเทาผิวและให้ความชุ่มชื่น
ดินขาว หรือแป้งเคโอลิน (kaolin) ทำความสะอาด ดูดซับความมัน
Glycerine เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำสบู่ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น
Chlorophyllin Water นี่ล่ะตัวการที่ทำให้ Herbalism เป็นสีเขียว นอกจากจะให้สีแล้วยังมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อ (antiseptic) ลดอาการอักเสบได้อีกด้วย
Nettle, Rosemary and Rice Vinegar Extract  Nettle หรือพืชที่ขนตามใบมีธาตุเหล็ก, วิตามินเอ และวิตามินซีสูง Rosemary มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อ ป้องกันการอักเสบ Rice Vinegar ช่วยลดสิว ทำให้ผิวกระจ่างใส
รำข้าว (rice bran) น้ำมันรำข้าวดีต่อผิวแพ้ง่าย ให้ความชุ่มชื่น สครับผิว
Gardenia Extract ป้องกันอาการอักเสบ กลิ่นหอมผ่อนคลาย (แต่พอมาอยู่รวมกับอย่างอื่นก็ไม่รู้กลิ่นแล้วล่ะ 55555) 
Rose Absolute ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย
Chamomile Blue Oil ฟื้นฟูสภาพผิว ช่วยให้ผิวผ่อนคลายคล้ายกับคุณสมบัติของ Lavender 
Sage Oil ช่วยฆ่าเชื้อ รักษาแผล
Perfume ซึ่งมาจากธรรมชาติ

ข้อมูลจาก website ของ LUSH ค่ะ >> https://uk.lush.com/products/cleansers/herbalism

จะเห็นว่า Herbalism เนี่ยจัดสมุนไพรมาเต็ม ๆ ตามชื่อเลย จากคุณสมบัติแต่ละอย่างแล้ว Cleanser นี้จึงเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวเป็นสิว ผิวที่ต้องการ exfoliate บ่อย ๆ เห็นว่าเหมาะกับผิวมันด้วยนะ


สีเขียวมากกกกก กลิ่นออกเค็ม ๆ 555555 ตอนแรกไม่ชอบแต่ตอนนี้ชินแล้วล่ะ :D

กระปุกนี้ซื้อมาจาก LUSH สยามเซนเตอร์เหมือนเดิมค่ะ 625บ./100g
ผลิตวันที่ 21/02/17 ควรใช้ให้หมดถึงวันที่ 20/05/17
เนื่องจากของเค้า fresh มากจริง ๆ จึงมีอายุแค่ประมาณ 3 เดือน
แล้วก็เวลาใช้ระวังอย่าให้น้ำเข้าไปในกระปุกนะคะ ไม่งั้นมันจะเสียเร็วขึ้น


ตอนจะใช้ก็หยิบออกมาประมาณนี้ค่ะ ถ้าใช้กับหน้า เขาบอกว่าขนาด pea size แต่พอเราใช้ไปเรื่อย ๆ เราจะรู้เองว่าชอบประมาณไหน เสร็จแล้วก็เอามาผสมน้ำนิดหน่อย กวน ๆ ให้เนื้อเหลวบนมือแล้วก็นำมาล้างหน้าได้เลย ! อาจจะแลดูยุ่งยาก เลอะเทอะไปหน่อย แต่ก็สนุกดีนะคะ :D

อ้อ ! ใช้หมดแล้วอย่าลืมล้างกระปุกเก็บไว้แลก Fresh Face Mask ด้วยนะ

OVERVIEW


เราซื้อมาเพราะทนกระแสไม่ไหวค่ะ 5555555 ที่จริงปัญหาสิวไม่ค่อยมีแล้ว แต่ก็ขึ้นเรื่อย ๆ แค่ไม่หนักหนาเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้ปัญหาของเราคือหน้ามัน และรอยสิวค่ะ แต่ก็ไม่เครียดมาก ค่อย ๆ รักษากันไป :) 

พูดถึงกระแส cleanser ตัวนี้มาแรงมากในหมู่ Lushie รีวิวบวกเยอะมาก เราก็คันไม้คันมืออยากลองบ้างสิ ตอนแรกลังเลตัวนี้กับ Dark Angels ที่เน้นเรื่องผิวมันเลย แต่เห็นว่า Herbalism อ่อนโยนกว่า แล้วก็กลัวสีดำของ Dark Angels เลอะอ่างบลา ๆ ก็เลยตัดสินใจซื้อเจ้านี่มาลองก่อน 

ระหว่างใช้: cleanser แบบนี้ของ LUSH จะไม่มีฟองเลยค่ะ เพราะเป็น clay based ไม่ใช่ soap based ใช้แรก ๆ อาจจะขัดใจนิดนึง คือมันไม่รู้ว่านี่สะอาดยัง ชั้นขัดมานานละนะ 555555 แต่อย่างที่บอกค่ะ เราต้องใช้เวลาศึกษากับมันหน่อย ใช้ไปสักพักเราจะรู้ได้เอง

Ground almonds ช่วยขัดผิวโอเคเลยค่ะ ไม่หยาบไปไม่ละเอียดไป แต่เราว่าถ้าอยากได้หยาบหรือละเอียด เราควบคุมตรงน้ำที่เอาไปผสมได้ ก็ขัด ๆ ถู ๆ ไปจนกว่าจะพอใจแล้วก็ล้างออก

หลังใช้: ตอนล้างออกนี่หน้านุ่มมากเลย TwT คือมันไม่เอี๊ยดเหมือนโฟมล้างหน้าอื่น ๆ แต่ก็อาจจะเป็นข้อเสียก็ได้เพราะเราอาจไม่มั่นใจว่ามันสะอาดหรือเปล่า ถ้าอยากได้สะอาดมาก ๆ ล้างรอบสองก็ได้ค่ะ หน้าไม่แห้งตึงแน่นอน ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือหน้านุ่มนี่แหละ ชอบมาก สิวหายไวมาก แบบว่าขึ้นวันนี้ คืนนี้ล้าง ตอนเช้าตื่นมาสิวหายหมดเลย สิวผดที่มักขึ้นทุกวันก็หายค่ะ เพราะว่ามีสครับช่วยนี่แหละ (ปกติเวลาใช้โฟมล้างหน้าอันเก่าเราจะชอบแกะและขูดสิวผดพวกนี้ ทำร้ายหน้าไปอีก 55555) ส่วนเรื่องรอยแดงรอยดำและควบคุมความมัน เราว่ายังเฉย ๆ อยู่ มันไม่ได้ออกผลทันทีขนาดนั้น แต่เราใช้มา 2 สัปดาห์ก็มีเพื่อนทักว่าหน้าใสขึ้น แงงงง ดีใจจจจ มันคงดีจริง ๆ แหละ แค่เราชินกับมันไปเอง

SIDE NOTE - 

สำหรับคนที่กำลังต่อสู้กับปัญหาสิวอยู่ เราเป็นกำลังใจให้นะคะ เราก็เคยเป็นสิวหนักมากมาหลายปี หาหมอก็แล้ว ลองแบรนด์นู้นแบรนด์นี้ก็แล้ว ก่อนจะได้มาเจอแบรนด์ที่ถูกกับผิวเราจริง ๆ ซะที (แบรนด์ที่ว่านี้คือ innisfree ค่ะ เราไม่แพ้เลย) สิ่งสำคัญของการรักษาสิวสำหรับเราคือ cleanser ค่ะ ล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้ง ถ้าไม่มั่นใจก็เช็ด toner หลังล้าง เท่านี้แหละค่ะ เจอแบรนด์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง :D

RATING


4/5
ค่อนข้างพอใจพอ ๆ กับ Curly Wurly เลย แบบว่ามันก็ดีเลยแหละ แค่มีบางอย่างที่เรายังไม่ว้าว แต่รักตรงความธรรมชาติ 100% และผลดีอื่น ๆ ซื้อต่อมั้ยคงไม่ เพราะจะลอง Dark Angels ต่อนั่นเอง 55555

|

March 15, 2017

รีวิว: LUSH Curly Wurly Shampoo

LUSH Curly Wurly Shampoo Review



LUSH เป็นแบรนด์ body care, skin care, เครื่องสำอางที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะตัวแบรนด์เคลมไว้อย่างหนักแน่นว่าจะไม่มีการทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์ และวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากธรรมชาติ ชัดมาก ๆ เลยก็คือ fresh face masks ซึ่งเราจะหาเวลามารีวิวนะคะ 5555 ผลิตภัณฑ์ของเค้าหลายอย่างก็ vegan ด้วยค่ะ แต่ว่าไม่ใช่ทุกอย่างจะ vegan 100% นะคะ อย่างเช่นสิ่งที่เราจะมารีวิวต่อไปนี้


We've got a lovely bunch of coconuts... 
as well as great bounce 
and a lovely coconut scent that lasts all day

ส่วนประกอบที่เป็นธรรมชาติหลัก ๆ ก็มี

มะพร้าวตากแห้ง ซึ่งมาเป็นเศษเล็ก ๆ เต็มไปหมด บางคนเกลียด Curly Wurly ไปเลยเพราะสิ่งนี้นี่แหละ ที่บางทีมันจะไปติดตามเส้นผมด้วย ยิ่งผมหยิกม้วนหนานี่ยิ่งเอาออกยากเลย สำหรับเรา เราไม่มีปัญหาค่ะ เพราะผมเราเป็นแบบ wavy มากกว่า curly (แล้วดันชื่อ Curly Wurly...) 
น้ำเลมอนสด ช่วยทำความสะอาด คืนความสดชื่น ทำให้ผมเงางาม
มะละกอสด ช่วยขจัดผิวหนังที่ตายแล้ว
ไข่ไก่สด ๆ ! โปรตีนจากไข่ไก่ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง

อย่างอื่นที่ช่วยให้ความชุ่มชื่นกับผมก็ Fair Trade Organic Cocoa Butter, Extra Virgin Coconut Oil, Fair Trade Shea Butter, Organic Jojoba Oil, Avocado Butter, Vetivert Oil, Organic Extra Virgin Olive Oil  อ่านประโยชน์ของส่วนประกอบอื่น ๆ ได้ที่เว็บหลักเลยค่ะ 


LUSH ค่อนข้างจริงใจเรื่องวัตถุดิบมาก ๆ เลยนะ เห็นได้ว่าเค้าบอกหมดเลยว่าสิ่งไหนดียังไง บางอันบอกด้วยว่าเก็บเกี่ยวช่วงเวลาไหน เอามาจากประเทศอะไร ฮือออ หลงรัก

เราซื้อกระปุกนี้มาจาก LUSH สยามสแควร์ค่ะ 995 บาท 220g ราคาค่อนข้างแรง(มาก)นะเมื่อเทียบกับแชมพูทั่วไป ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะมาซื้อแชมพูเกือบพัน T_T แต่แรงจูงใจหลักของเราคือ ผมเราแห้งมากค่ะ ปล่อยไว้ยาวมากไม่เคยได้ ปลายผมจะแห้ง ไร้น้ำหนัก ไม่เห็นถึงเงาอะไรทั้งนั้น แทบไม่เคยปล่อยผมไปไหนมาไหนเลยค่ะ ลมพัดทีนี่ไม่เคยกลับมาเข้าทรง เศร้ามาก 55555555 และเราก็ไม่อยากไปยืดผมถาวรหรือใช้ที่หนีบผม เพราะคิดว่ามันจะทำให้ผมเสียมากกว่าเดิม อีกอย่างคือไม่อยากทิ้งผมที่หยักเป็นธรรมชาติไปด้วย จะให้หมักผมก็ไม่มีเวลา+ขี้เกียจ จนมาเจอ hair care ของ LUSH นี่แหละค่ะ

มาถึงช่วงรีวิวสักที ! 


ข้างในกระปุกค่ะ อันนี้เราใช้ไปแล้วประมาณ 6 ครั้ง 


เนื้อค่อนข้างเหนียว ไม่เหลวเหมือนแชมพูทั่วไป คว่ำกระปุกก็ไม่หกค่ะ อย่างกับเดลี่ควีน
ผมเรายาวประบ่า สระผมครั้งนึงเราควักออกมาใช้ประมาณนี้ค่ะ อาจจะมากกว่านิดนึง 


สติ๊กเกอร์บอกว่าใครเป็นคนทำ (ขอบคุณนะคะคุณ Kim) วันผลิต และวันหมดอายุค่ะ 
มีอายุประมาณ 1 ปี 1 เดือน ใช้หมดก่อนแน่นอนค่ะ ไม่ต้องห่วง 5555


ใช้หมดแล้วอย่าทิ้งกระปุกนะคะ ล้างแล้วเก็บไว้ให้ครบ 5 กระปุก นำไปแลก fresh face mask ได้ฟรีกระปุกนึงค่ะ :D


OVERVIEW


กลิ่น : ตอนลองดมครั้งแรกที่ร้าน เราไม่ชอบกลิ่นเท่าไหร่ แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ชินแล้วค่ะ 55555 ผู้คนบอกว่ากลิ่นเหมือนมะพร้าว ก็จริงค่ะ เหมือนกลิ่นมะพร้าวสังเคราะห์ ออกหวาน ๆ หน่อย แต่กลิ่นติดผมน้อยมาก ไม่เหมือนผลิตภัณฑ์ LUSH ส่วนใหญ่ที่กลิ่นจะฟุ้งไปทั้งวัน 

ระหว่างใช้ : ถ้าใครทนไม่ได้กับแชมพูที่ฟองน้อย ไม่ฟูฟ่อง เราไม่แนะนำนะคะ เพราะฟองค่อนข้างน้อย ต้องสระสักพักนึงฟองถึงจะขึ้น  เราว่าดีกับเราตรงที่ปกติถ้าแชมพูฟองหนา เราจะคิดว่าถู ๆ แค่นี้แหละพอละ แต่นี่ฟองน้อยไง เราเลยใช้เวลากับมันเยอะขึ้น 

พอล้างออกแล้ว ผมสะอาดแบบ squeaky clean มาก ๆ ไม่ลื่นเลย5555

หลังใช้ : เรารอให้ผมแห้งเองโดยไม่ใช้ไดร์ค่ะ ผลลัพธ์ที่เห็นชัดสุดเลยคือ ผมนุ่มมากกกกก ต่างกับตอนล้างออกลิบลับ ผมไม่แห้ง  แลดูสุขภาพดีขึ้นมานิดนึง 555555 คือมันไม่ว้าวขนาดนั้นถ้าใช้โดด ๆ โดยไม่มี conditioner แต่เรื่องทำให้ผมม้วนอย่างเป็นธรรมชาติ ม้วนเป็นเงา อันนี้ Curly Wurly ทำได้ดีเลย เพราะเราไม่อยากได้แชมพูที่ยืดให้ผมตรงแม้จะมีน้ำหนัก 

แต่ถ้าจะใช้กับ conditioner เราแนะนำ LUSH Jungle Solid Conditioner ค่ะ อันนี้ใช้แล้วว้าวจริง ๆ กลิ่นหอมทั้งวัน ผมนุ่มขึ้นมาก


RATING


4/5
หักตรงแพงและไม่ว้าว 555555 แต่ให้ตรงผมสะอาดมาก ไม่ยืดผมให้ตรง และความออแกนิก

|